เที่ยวแหล่งธรรมชาติ 5 สถาน
อุทยานแห่งชาติปางสีดา อำเภอเมืองสระแก้ว-วัฒนานคร
ช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติปางสีดาเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว เพราะเป็นอุทยานฯ ใกล้กรุง ไม่ไกลจากเขาใหญ่แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติยอดนิยมนัก ด้วยปริมาณนักท่องเที่ยวที่มากขึ้นเรื่อยๆ
จึงมีนักนิยมธรรมชาติส่วนหนึ่งหนีความวุ่นวาย มาที่ “ปางสีดา” เนื่องจากยังคงเป็น ป่าที่บริสุทธิ์ สิ่งอำนวยความสะดวกพอสมควร แต่สำหรับคนที่รักธรรมชาติแล้วไม่ใช่ปัญหาสำคัญ และในระยะหลัง “ปางสีดา” เป็นที่รู้จักมากขึ้นในเรื่องของ “ผีเสื้อ” จึงเป็นอุทยานแห่งชาติที่ทุกคนอยากมาเยือน
“อุทยานแห่งชาติปางสีดา” เป็นส่วนหนึ่งของผืนป่ามรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 5 แสนกว่าไร่ ครอบคลุมตั้งแต่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี มาถึงอ.เมืองสระแก้ว อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ด้วยสภาพป่าปางสีดาที่ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบแล้ง ทุ่งหญ้า ป่าเบญจพรรณ ที่ยังคงสมบูรณ์มากกว่าร้อยละ 95 จึงเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารและต้นกำเนิดแม่น้ำบางปะกง ที่กลางผืนป่าปางสีดา จึงมีน้ำตกหลายแห่งที่รู้จักดี และ นักท่องเที่ยวสามารถจอดรถแล้วเดินไปชมได้เลย ได้แก่
น้ำตกปางสีดา เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีหน้าผาสูงประมาณ 10 เมตร สายน้ำไหลลงสู่แอ่งน้ำด้านล่าง มีโขดหินให้นั่งชม โดยจะมีน้ำมากในช่วงฤดูฝน เป็นน้ำตกที่ชาวสระแก้วและนักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาเที่ยว เนื่องจากเข้าถึงได้สะดวก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 800 เมตร และหากผู้ที่ชอบเดินป่าศึกษาธรรมชาติก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่นำเดินไปยัง
“น้ำตกผาตะเคียน” ซึ่งเป็นต้นน้ำของน้ำตกปางสีดา อีกประมาณ 2 กม. เป็นน้ำตกที่สูงกว่า20 เมตรน้ำตกไหลลงสู่ก้อนหินขนาดใหญ่ด้านล่าง ด้านบนหน้าผามีต้นตะเคียนใหญ่เป็นที่มาของชื่อน้ำตก
และจากลานจอดรถน้ำตกปางสีดา ขึ้นไปประมาณ 300 เมตร ทางแยกเข้าบ้านพักปางสีดา 1-2 ซ้ายมือจะมี เส้นทางศึกษาธรรมชาติ“หัวใจดงพญาเย็น”เป็นเส้นทางที่มีระบบนิเวศวิทยาที่ หลากหลาย ระยะทาง 1.8 กม. บริเวณชายป่าตรงทางเข้าทั้งสองฝั่งถนนจะเป็น “จุดดูผีเสื้อ” มีผีเสื้อหลากหลายชนิดให้ดู ถ้าโชคดีอาจเห็นผีเสื้อหายาก อย่าง ผีเสื้อลายซิกแซก ผีเสื้อเหลืองหนามแถบฟ้า ออกมาให้ดู
จึงมีนักนิยมธรรมชาติส่วนหนึ่งหนีความวุ่นวาย มาที่ “ปางสีดา” เนื่องจากยังคงเป็น ป่าที่บริสุทธิ์ สิ่งอำนวยความสะดวกพอสมควร แต่สำหรับคนที่รักธรรมชาติแล้วไม่ใช่ปัญหาสำคัญ และในระยะหลัง “ปางสีดา” เป็นที่รู้จักมากขึ้นในเรื่องของ “ผีเสื้อ” จึงเป็นอุทยานแห่งชาติที่ทุกคนอยากมาเยือน
“อุทยานแห่งชาติปางสีดา” เป็นส่วนหนึ่งของผืนป่ามรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 5 แสนกว่าไร่ ครอบคลุมตั้งแต่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี มาถึงอ.เมืองสระแก้ว อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ด้วยสภาพป่าปางสีดาที่ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบแล้ง ทุ่งหญ้า ป่าเบญจพรรณ ที่ยังคงสมบูรณ์มากกว่าร้อยละ 95 จึงเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารและต้นกำเนิดแม่น้ำบางปะกง ที่กลางผืนป่าปางสีดา จึงมีน้ำตกหลายแห่งที่รู้จักดี และ นักท่องเที่ยวสามารถจอดรถแล้วเดินไปชมได้เลย ได้แก่
น้ำตกปางสีดา เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีหน้าผาสูงประมาณ 10 เมตร สายน้ำไหลลงสู่แอ่งน้ำด้านล่าง มีโขดหินให้นั่งชม โดยจะมีน้ำมากในช่วงฤดูฝน เป็นน้ำตกที่ชาวสระแก้วและนักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาเที่ยว เนื่องจากเข้าถึงได้สะดวก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 800 เมตร และหากผู้ที่ชอบเดินป่าศึกษาธรรมชาติก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่นำเดินไปยัง
“น้ำตกผาตะเคียน” ซึ่งเป็นต้นน้ำของน้ำตกปางสีดา อีกประมาณ 2 กม. เป็นน้ำตกที่สูงกว่า20 เมตรน้ำตกไหลลงสู่ก้อนหินขนาดใหญ่ด้านล่าง ด้านบนหน้าผามีต้นตะเคียนใหญ่เป็นที่มาของชื่อน้ำตก
และจากลานจอดรถน้ำตกปางสีดา ขึ้นไปประมาณ 300 เมตร ทางแยกเข้าบ้านพักปางสีดา 1-2 ซ้ายมือจะมี เส้นทางศึกษาธรรมชาติ“หัวใจดงพญาเย็น”เป็นเส้นทางที่มีระบบนิเวศวิทยาที่ หลากหลาย ระยะทาง 1.8 กม. บริเวณชายป่าตรงทางเข้าทั้งสองฝั่งถนนจะเป็น “จุดดูผีเสื้อ” มีผีเสื้อหลากหลายชนิดให้ดู ถ้าโชคดีอาจเห็นผีเสื้อหายาก อย่าง ผีเสื้อลายซิกแซก ผีเสื้อเหลืองหนามแถบฟ้า ออกมาให้ดู
สำหรับน้ำตกอื่นๆ ในปางสีดา ส่วนใหญ่เป็นน้ำตกอยู่กลางป่า ซึ่งต้องเดินเท้าเข้าไปหรือพักแรมกลางป่า เช่น น้ำตก ถ้ำค้างคาว น้ำตกลานแก้ว น้ำตกทับซุง น้ำตกแควมะค่า น้ำตกทับเทวา เป็นต้น ซึ่งต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนล่วงหน้า
ส่วนนักท่องเที่ยวที่สนใจกางเต็นท์นอนสูดกลิ่นไอของธรรมชาติ มีจุดกางเต็นท์ 2 จุด คือ บริเวณหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ปด.5 (กม.20) ที่คุณจะได้นอนฟังเสียงสัตว์ป่า เสียงนก และดูทะเลหมอกยามเช้าที่ “จุดชมวิว กม.25” มองเห็นทิวเขาเบื้องล่างที่ทอดยาวไกลสุดสายตา
จากป่าไม้ที่ยังสมบูรณ์จึงเป็นที่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ทั้ง ช้างป่า เสือโคร่ง กระทิง หมีควาย กวาง เก้งและจระเข้น้ำจืดในธรรมชาติ ซึ่งมีเพียงป่าไม่กี่แห่งในไทย แล้วยังมีนกอีกมากกว่า 200 ชนิด รวมทั้งนกเงือกที่บ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของผืนป่าได้เป็นอย่างดี ที่นี่จึงเป็นแหล่งดูนกที่น่าสนใจอีกด้วย ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว คือช่วงฤดูฝนจนถึงช่วงต้นฤดูหนาว
จากป่าไม้ที่ยังสมบูรณ์จึงเป็นที่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ทั้ง ช้างป่า เสือโคร่ง กระทิง หมีควาย กวาง เก้งและจระเข้น้ำจืดในธรรมชาติ ซึ่งมีเพียงป่าไม่กี่แห่งในไทย แล้วยังมีนกอีกมากกว่า 200 ชนิด รวมทั้งนกเงือกที่บ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของผืนป่าได้เป็นอย่างดี ที่นี่จึงเป็นแหล่งดูนกที่น่าสนใจอีกด้วย ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว คือช่วงฤดูฝนจนถึงช่วงต้นฤดูหนาว
การเดินทาง จากสี่แยกไฟแดงร้านสะดวกซื้อตัวเมืองสระแก้ว ผ่านตลาดสดสระแก้วตรงไปจนถึงสถานีรถไฟสระแก้ว เลี้ยวซ้ายไป 200 เมตร ถึงทางหลวงหมายเลข 3462 เลี้ยวขวาข้ามทางรถไฟไปตามทาง 10 กม.ถึงสี่แยกบ้านหนองเตียน (โคกอีหลง) เลี้ยวขวาไปอีก 16 กม. ถึงสามแยกบ้านคลองน้ำเขียว พบสามแยกเลี้ยวซ้ายไปอีก 1 กม.ถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานฯ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติปางสีดา โทร 0-3724-3775 ,08-1862-1511
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติปางสีดา โทร 0-3724-3775 ,08-1862-1511
อุทยานแห่งชาติตาพระยา อำเภอตาพระยา
อยู่ในเขต อ.ตาพระยา จ.สระแก้วและ จ.บุรีรัมย์ เป็นป่าที่เชื่อมต่อมาจากอุทยานฯ ปางสีดา จึงเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่เช่นกัน มีพื้นที่ทั้งหมด 594 ตร.กม.หรือ 371,250 ไร่ ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบโอบล้อมด้วยขุนเขา หรือเทือกเขาบรรทัดที่ทอดยาวไปทางทิศตะวันออก เป็นกำแพงธรรมชาติกั้นแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น กระทิง หมูป่า เก้ง กวาง หมี เสือ วัวแดง หมาใน ช้างป่า และนกมากกว่า 300 ชนิด
จุด เด่นของอุทยานฯ อยู่ที่มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติไว้รองรับนักท่องเที่ยวกลายเส้นทาง เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบดูนก ดูผีเสื้อ ศึกษาพรรณไม้และสัตว์ป่าเป็นอย่างยิ่ง แล้วยังมีจุดชมวิวอีก 2 จุดให้ชมทิวทัศน์เบื้องล่าง สถานที่น่าสนใจได้แก่ เขายักษ์ ซึ่งเป็นก้อนหินทรายขนาดใหญ่กลางป่ามีภาพสลักเป็นรูปบุคคลคล้ายยักษ์ ป่าสลัดได เป็นพืชตระกูลตะบองเพชรมีต้นสลัดไดขึ้นอยู่หนาแน่น 2-3 ไร่
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ที่ทำการอุทยานฯ ตาพระยา ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว 27180 โทร 0-3724-6056
การเดินทาง
- จากอำเภออรัญประเทศ ให้มาตามทางหลวงหมายเลข 348 ไปอำเภอตาพระยา ถึงสามแยกหน้าอำเภอให้เลี้ยวซ้ายไปทาง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ประมาณ 26 กม. สังเกตหลัก กม.75 ที่ทำการตั้งอยู่ซ้ายมือติดถนน
- จากอำเภอวัฒนานคร ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3128 ถึงสามแยกช่องกุ่ม ประมาณ 25 กม.เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทาง 3393 ถึงสี่แยกโคคลาน เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3486 จนถึงสามแยกตัดกับเส้นทาง 348 ให้เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางไป อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ สังเกตหลัก กม.75 ที่ทำการตั้งอยู่ซ้ายมือติดถนน
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ที่ทำการอุทยานฯ ตาพระยา ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว 27180 โทร 0-3724-6056
การเดินทาง
- จากอำเภออรัญประเทศ ให้มาตามทางหลวงหมายเลข 348 ไปอำเภอตาพระยา ถึงสามแยกหน้าอำเภอให้เลี้ยวซ้ายไปทาง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ประมาณ 26 กม. สังเกตหลัก กม.75 ที่ทำการตั้งอยู่ซ้ายมือติดถนน
- จากอำเภอวัฒนานคร ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3128 ถึงสามแยกช่องกุ่ม ประมาณ 25 กม.เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทาง 3393 ถึงสี่แยกโคคลาน เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3486 จนถึงสามแยกตัดกับเส้นทาง 348 ให้เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางไป อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ สังเกตหลัก กม.75 ที่ทำการตั้งอยู่ซ้ายมือติดถนน
ละลุ อำเภอตาพระยา
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทางธรณีที่เกิดจากการยุบตัวหรือพังทลายของดิน ทั้งสายฝน กระแสลมพัดกระหน่ำ ผ่านช่วงเวลาอันยาวนาน ดินที่แข็งจะคงอยู่ ในขณะที่ดินอ่อนก็จะพังทลายและถูกกัดกร่อนลงไป เกิดเป็นแท่งหินเป็นรูปร่างลักษณะแตกต่างกัน มองคล้ายกำแพงเมืองหรือเสาหิน เหมือนกันกับ “แพะเมืองผี” ที่จังหวัดแพร่ จึงเป็นที่มาของชื่อ “ละลุ” ที่แปลมาจากภาษาเขมรแปลว่า “ทะลุ”
“ละลุ” เป็นหนึ่งในมุมมองใหม่เมืองไทยหรือ Unseen in Thailand เสน่ห์ของละลุ คือ มีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 2,000 ไร่ ครอบคลุม 6 หมู่บ้าน มีความสดใหม่ สวยงาม ท่ามกลางท้องทุ่งและภูเขาเขียวชอุ่มทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ทำให้ละลุมีความสวยงาม แปลกตาเหมาะแก่การเที่ยวชม ช่วงเวลาที่เหมาะสม คือ ช่วงเช้าหรือเวลาเย็นเพราะแดดไม่ร้อนมากเกินไป จะทำให้สามารถเดินชมความสวยงามได้อย่างทั่วถึง
การเดินทางเข้าละลุ ต้องนำรถส่วนตัวไปจอดที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว แล้วนั่ง “รถอีแต๊ก” ที่ชาวบ้านนำมาให้บริการลัดเลาะดูวิถีชีวิตของหมู่บ้าน ก่อนออกไปตามท้องทุ่งประมาณ 10 นาทีถึงตัว ละลุ แล้วคุณจะตะลึงในความยิ่งใหญ่ของประติมากรรมธรรมชาติแห่งนี้
“ละลุ” เป็นหนึ่งในมุมมองใหม่เมืองไทยหรือ Unseen in Thailand เสน่ห์ของละลุ คือ มีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 2,000 ไร่ ครอบคลุม 6 หมู่บ้าน มีความสดใหม่ สวยงาม ท่ามกลางท้องทุ่งและภูเขาเขียวชอุ่มทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ทำให้ละลุมีความสวยงาม แปลกตาเหมาะแก่การเที่ยวชม ช่วงเวลาที่เหมาะสม คือ ช่วงเช้าหรือเวลาเย็นเพราะแดดไม่ร้อนมากเกินไป จะทำให้สามารถเดินชมความสวยงามได้อย่างทั่วถึง
การเดินทางเข้าละลุ ต้องนำรถส่วนตัวไปจอดที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว แล้วนั่ง “รถอีแต๊ก” ที่ชาวบ้านนำมาให้บริการลัดเลาะดูวิถีชีวิตของหมู่บ้าน ก่อนออกไปตามท้องทุ่งประมาณ 10 นาทีถึงตัว ละลุ แล้วคุณจะตะลึงในความยิ่งใหญ่ของประติมากรรมธรรมชาติแห่งนี้
ค่าบริการนั่งรถอีแต๊ก นั่งได้ไม่เกิน 8 คน ราคาคันละ 200 บาท ในชุมชนบ้านหนองผักแว่น ยังมีโฮมสเตย์ให้พักค้างสัมผัสกับวิถีชาวบ้านกว่า 20 หลัง ในราคาคืนละ 100 บาทต่อคน อาหาร 1 มื้อ 100 บาทต่อคน ถ้ามาเป็นหมู่คณะอาจมีกิจกรรมเสริมทั้งการแสดงโปงลาง กันตรึมของนักเรียน และการบายศรีสู่ขวัญ ต้องติดต่อก่อนล่วงหน้า
การเดินทาง
- จากอำเภออรัญประเทศ ไปตามทางหลวงหมายเลข 348 ไปอำเภอตาพระยา ถึงหลักกิโลเมตรที่ 35-36 บ้านกุดเตย ให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 3486 ไปอีก 4.5 กม. ถึงสี่แยกโคคลานตรงไปอีกหน่อย จะมีป้ายบอกทางไปละลุทางซ้ายมือให้เลี้ยวไปตามทางอีก 18 กม. ผ่านโรงเรียนบ้านหนองผักแว่นทางซ้ายมือไปจะพบสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายไป 500 เมตร มองเห็นอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่ทางซ้ายมือ
- จากอำเภอวัฒนานคร ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3128 ถึงสามแยกช่องกุ่ม ประมาณ 25 กม.เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทาง 3393 ผ่านบ้านเขาพรมสุวรรณ จนถึงหลักกิโลที่ 20 เลยไปไม่ไกล ซ้ายมือมีป้าย “หมู่บ้านวัฒนธรรมละลุ” ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนคอนกรีตประมาณ 800 เมตร จนถึงเส้นทางตัดกับถนนลาดยางเข้าหมู่บ้าน (เส้นเดียวกับที่เข้ามาจากสี่แยกโคคลาน) ให้เลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 9 กม. ผ่านโรงเรียนบ้านหนองผักแว่นทางซ้ายมือไปจะพบสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายไป 500 เมตร มองเห็นอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่ทางซ้ายมือ
การเดินทาง
- จากอำเภออรัญประเทศ ไปตามทางหลวงหมายเลข 348 ไปอำเภอตาพระยา ถึงหลักกิโลเมตรที่ 35-36 บ้านกุดเตย ให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 3486 ไปอีก 4.5 กม. ถึงสี่แยกโคคลานตรงไปอีกหน่อย จะมีป้ายบอกทางไปละลุทางซ้ายมือให้เลี้ยวไปตามทางอีก 18 กม. ผ่านโรงเรียนบ้านหนองผักแว่นทางซ้ายมือไปจะพบสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายไป 500 เมตร มองเห็นอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่ทางซ้ายมือ
- จากอำเภอวัฒนานคร ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3128 ถึงสามแยกช่องกุ่ม ประมาณ 25 กม.เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทาง 3393 ผ่านบ้านเขาพรมสุวรรณ จนถึงหลักกิโลที่ 20 เลยไปไม่ไกล ซ้ายมือมีป้าย “หมู่บ้านวัฒนธรรมละลุ” ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนคอนกรีตประมาณ 800 เมตร จนถึงเส้นทางตัดกับถนนลาดยางเข้าหมู่บ้าน (เส้นเดียวกับที่เข้ามาจากสี่แยกโคคลาน) ให้เลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 9 กม. ผ่านโรงเรียนบ้านหนองผักแว่นทางซ้ายมือไปจะพบสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายไป 500 เมตร มองเห็นอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่ทางซ้ายมือ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวละลุบ้านคลองยาง โทร 08-1286-3064 หรือองค์การบริหารส่วนตำบลทัพราช โทร 0-3724-3724
ล่องเรือ ตกปลา ดูลีลานกงู
อ่างเก็บน้ำพระปรง อำเภอวัฒนานคร
อ่างเก็บน้ำพระปรง อำเภอวัฒนานคร
อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของจังหวัดสระแก้ว มีความจุถึง 97 ล้านลูกบาศก์เมตร จนเกือบจะเรียกว่า “เขื่อน” เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในจังหวัด สระแก้ว สร้างกั้นต้นน้ำห้วยพระปรง ซึ่งเป็นลำน้ำที่ไหลลงมาจากอุทยานแห่งชาติปางสีดา จากสภาพป่าที่สมบูรณ์กลายเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยพันธุ์ปลา นานาชนิด ทำให้ชาวบ้านแถวนี้หลังจากว่างเว้นจากการทำไร่ ทำนา จึงหารายได้เสริมด้วยการจับปลาขาย
เสน่ห์ของอ่างเก็บน้ำพระปรงอยู่ที่ การได้นั่งเรือ ล่องแพชมทิวทัศน์ธรรมชาติ ตกปลา ดูนกป่า นกทุ่ง นกน้ำนานาชนิด โดยเฉพาะนกน้ำขนาดใหญ่ที่หายากใกล้สูญพันธุ์อย่าง “นกอ้ายงั่วหรือนกงู” ที่มีรายงานการพบนกชนิดนี้มากถึง 70-100 ตัว ถือเป็นแหล่งหากินของนกงูที่ใหญ่ที่สุดของไทย เชื่อมโยงกับแหล่งขยายพันธุ์นกชนิดนี้ที่บ้านลุงสน บ้านคลองมะละกอ อ.เมืองสระแก้ว จนเกิดเป็นงาน “เทศกาลดูนกน้ำตามเส้นทางนกงู” ขึ้นเป็นประจำ ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมของ ทุกปี ในขณะที่ล่องเรือจะได้เห็นนกงูเกาะอยู่ตามต้นไม้ตอไม้แห้งหรือถ้าโชคดีอาจ ได้เห็นมันดำน้ำจับปลาโชว์คอยาวเหมือนงู เมื่อเรือลอยไปใกล้ก็จะได้เห็นลีลาการบินขึ้นจากน้ำ ด้วยการตีปีกและเท้ากับน้ำก่อนที่จะค่อยๆ วิ่ง take off ขึ้นจากน้ำแล้วบินต่อภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
เสน่ห์ของอ่างเก็บน้ำพระปรงอยู่ที่ การได้นั่งเรือ ล่องแพชมทิวทัศน์ธรรมชาติ ตกปลา ดูนกป่า นกทุ่ง นกน้ำนานาชนิด โดยเฉพาะนกน้ำขนาดใหญ่ที่หายากใกล้สูญพันธุ์อย่าง “นกอ้ายงั่วหรือนกงู” ที่มีรายงานการพบนกชนิดนี้มากถึง 70-100 ตัว ถือเป็นแหล่งหากินของนกงูที่ใหญ่ที่สุดของไทย เชื่อมโยงกับแหล่งขยายพันธุ์นกชนิดนี้ที่บ้านลุงสน บ้านคลองมะละกอ อ.เมืองสระแก้ว จนเกิดเป็นงาน “เทศกาลดูนกน้ำตามเส้นทางนกงู” ขึ้นเป็นประจำ ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมของ ทุกปี ในขณะที่ล่องเรือจะได้เห็นนกงูเกาะอยู่ตามต้นไม้ตอไม้แห้งหรือถ้าโชคดีอาจ ได้เห็นมันดำน้ำจับปลาโชว์คอยาวเหมือนงู เมื่อเรือลอยไปใกล้ก็จะได้เห็นลีลาการบินขึ้นจากน้ำ ด้วยการตีปีกและเท้ากับน้ำก่อนที่จะค่อยๆ วิ่ง take off ขึ้นจากน้ำแล้วบินต่อภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
นอกจากนี้ อาหารเมนูปลาหลากชนิดของที่นี่ขึ้นชื่อ จึงเป็นแหล่งพักผ่อนของนักท่องเที่ยวและคนในจังหวัดเป็นอย่างดี ตามสโลแกนที่ว่า “ล่องเรือ ตกปลา ดูลีลานกงู ที่เขื่อนพระปรง”
การเดินทาง จากอำเภอเมืองสระแก้วเมื่อถึงสี่แยกไฟแดง วัฒนานคร ให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 3198 ประมาณ 18.5 กม. พบสามแยกบริเวณโรงเรียนซับนกแก้ววิทยา สังเกตป้อมตำรวจสี่แดงอยู่ซ้ายมือ มีป้ายบอกไปอ่างเก็บน้ำพระปรงให้เลี้ยวซ้ายไปประมาณ 6 กม. พบสี่แยกท่าช้างให้ตรงไปอีกประมาณ 10 กม. ผ่านเข้าโครงการชลประทานพระปรงถึงตัวเขื่อน เมื่อขับรถลงไปจะมีร้านอาหารของเอกชนอยู่ซ้ายมือ ส่วนร้านอาหาร บริการ ล่องเรือ และบ้านพักที่บริหารจัดการโดย อบต.ช่องกุ่ม ต้องเลี้ยวขวาไปตามทางอีกประมาณ 800 เมตร
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลช่องกุ่ม โทร.0-3726-1020
ถ้ำเพชรโพธิ์ทอง อำเภอคลองหาด
ถ้ำเพชรโพธิ์ทองตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาเลื่อม ทางเดินขึ้นไปยังถ้ำระยะทางราว 700 เมตร ร่มรื่นด้วยป่าและต้นจันผาที่ชุมชนช่วยกันอนุรักษ์และปลูกเพิ่มจากเดิมที่ กำลังจะสูญพันธุ์ เป็นถ้ำขนาดกลางที่อยู่ในภูเขาที่ทอดยาวขนานไปกับพื้นดิน มีความยาว 120 เมตร ที่ปากถ้ำมีลมเย็นพัดผ่านช่องเขาเข้าไปในถ้ำ ด้วยอากาศที่มีการถ่ายเทตลอดเวลาส่งผลให้ภายในถ้ำเย็นสบายตลอดทั้งปี ภายในถ้ำจัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน จุดแรก ก้าวเท้าสู่ประตูถ้ำที่หันหน้าไปทางตะวันตก ชื่อห้องเขียวมรกตเป็นอุโมงค์ใหญ่ที่มีความสูงรี ผนังมีสีขาวนวลผสมกับสีเขียวมรกต
จากนั้นเดินขึ้นบันไดไม้สู่อีกห้องหนึ่งชื่อห้อง “มุขประดับเพชร” เป็นห้องขนาดใหญ่และเป็นจุดสำคัญเป็นที่มาของชื่อถ้ำ มีหินงอกหินย้อยเป็นมุขทรงเจดีย์หรือทรงรูปไข่สีขาว มีเกร็ดทรายประดับระยิบระยับเมื่อต้องแสงไฟ ตลอดทั้งผนังของถ้ำและพื้นผิวของเพดานถ้ำมีรูปคล้ายๆ ใบโพธิ์สีทอง ซึ่งเกิดจากน้ำขังในแอ่งหินด้านบนภูเขาจนเกิดสนิมน้ำทะลุผ่านจนเป็นดวงเป็น รูปคล้ายใบโพธิ์ บางรูปมีรูปร่างแปลกตาตามแต่ใครจะจินตนาการ มาจุดสุดท้าย ประตูปราสาทถ้ำเพชรโพธิ์ทองเป็นพื้นต่างระดับ มีหินปากประตูสีนวลขาวเรียบเนียน มีหินงอกรูปร่างคล้ายพระพุทธรูปจนกล่าวขานว่าส่วนสุดท้ายเป็นห้องพระมีบันได ให้สามารถขึ้นไปชมด้านบนได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
บริเวณใกล้เคียงกันยังสามารถชมความงามของถ้ำเพชรหาดทรายแก้ว ซึ่งเป็นถ้ำขนาดเล็กที่ต้องออกแรงเดินขึ้นบันไดไปยังทางลงถ้ำอีกด้านหนึ่ง ของเขา ทางลงเป็นบันไดเหล็กแคบๆ แต่เมื่อลงถึงถ้ำจะได้ชมหินงอกหินย้อยที่สวยงาม หลากหลาย มีชื่อเรียกต่างๆ กันไป เมื่อเดินออกอุโมงค์อีกทางหนึ่งจะเป็นหน้าผาสูงประมาณ 25 เมตร มีกิจกรรมโรยตัวจากหน้าผาเป็นกิจกรรมเสริมที่เชิญชวนให้ผู้ที่ชอบกีฬาท้าทาย ได้เดินทางมาทดสอบตนเอง ถ้ามาเป็นหมู่คณะต้องติดต่อที่ อบต.ก่อนล่วงหน้า หากเดินตามไหล่เขาต่อไปอีกประมาณ 200 เมตรจะนำคุณไปยัง “จุดชมวิวผาโมกราชินีและผาหินเทิบ” จากจุดนี้จะมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างที่สวยงามของประเทศเพื่อนบ้านประเทศ กัมพูชา
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลคลองหาด โทร.0-3751-2142, 08-9936-3880, 08-6101-1539
การเดินทาง จากตัวจังหวัดสระแก้วใช้ถนนทางหลวง หมายเลข 317 เลี้ยวซ้ายตรงทางแยกสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น ตัดเข้าถนนทางหลวงหมายเลข 3067 ระยะทาง 13 กม. ถึงสี่แยกคลองหาดเลี้ยวขวาผ่านที่ว่าการอำเภอคลองหาด ประมาณ 8 กิโลเมตรเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะถึงถ้ำเพชรโพธิ์ทองและถ้ำหาดทรายแก้ว
น้ำตกเขาตะกรุบ อำเภอวังน้ำเย็น
จากนั้นเดินขึ้นบันไดไม้สู่อีกห้องหนึ่งชื่อห้อง “มุขประดับเพชร” เป็นห้องขนาดใหญ่และเป็นจุดสำคัญเป็นที่มาของชื่อถ้ำ มีหินงอกหินย้อยเป็นมุขทรงเจดีย์หรือทรงรูปไข่สีขาว มีเกร็ดทรายประดับระยิบระยับเมื่อต้องแสงไฟ ตลอดทั้งผนังของถ้ำและพื้นผิวของเพดานถ้ำมีรูปคล้ายๆ ใบโพธิ์สีทอง ซึ่งเกิดจากน้ำขังในแอ่งหินด้านบนภูเขาจนเกิดสนิมน้ำทะลุผ่านจนเป็นดวงเป็น รูปคล้ายใบโพธิ์ บางรูปมีรูปร่างแปลกตาตามแต่ใครจะจินตนาการ มาจุดสุดท้าย ประตูปราสาทถ้ำเพชรโพธิ์ทองเป็นพื้นต่างระดับ มีหินปากประตูสีนวลขาวเรียบเนียน มีหินงอกรูปร่างคล้ายพระพุทธรูปจนกล่าวขานว่าส่วนสุดท้ายเป็นห้องพระมีบันได ให้สามารถขึ้นไปชมด้านบนได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
บริเวณใกล้เคียงกันยังสามารถชมความงามของถ้ำเพชรหาดทรายแก้ว ซึ่งเป็นถ้ำขนาดเล็กที่ต้องออกแรงเดินขึ้นบันไดไปยังทางลงถ้ำอีกด้านหนึ่ง ของเขา ทางลงเป็นบันไดเหล็กแคบๆ แต่เมื่อลงถึงถ้ำจะได้ชมหินงอกหินย้อยที่สวยงาม หลากหลาย มีชื่อเรียกต่างๆ กันไป เมื่อเดินออกอุโมงค์อีกทางหนึ่งจะเป็นหน้าผาสูงประมาณ 25 เมตร มีกิจกรรมโรยตัวจากหน้าผาเป็นกิจกรรมเสริมที่เชิญชวนให้ผู้ที่ชอบกีฬาท้าทาย ได้เดินทางมาทดสอบตนเอง ถ้ามาเป็นหมู่คณะต้องติดต่อที่ อบต.ก่อนล่วงหน้า หากเดินตามไหล่เขาต่อไปอีกประมาณ 200 เมตรจะนำคุณไปยัง “จุดชมวิวผาโมกราชินีและผาหินเทิบ” จากจุดนี้จะมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างที่สวยงามของประเทศเพื่อนบ้านประเทศ กัมพูชา
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลคลองหาด โทร.0-3751-2142, 08-9936-3880, 08-6101-1539
การเดินทาง จากตัวจังหวัดสระแก้วใช้ถนนทางหลวง หมายเลข 317 เลี้ยวซ้ายตรงทางแยกสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น ตัดเข้าถนนทางหลวงหมายเลข 3067 ระยะทาง 13 กม. ถึงสี่แยกคลองหาดเลี้ยวขวาผ่านที่ว่าการอำเภอคลองหาด ประมาณ 8 กิโลเมตรเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะถึงถ้ำเพชรโพธิ์ทองและถ้ำหาดทรายแก้ว
น้ำตกเขาตะกรุบ อำเภอวังน้ำเย็น
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่กลางป่าสูง 50 เมตร มีน้ำมากในช่วงฤดูฝน สายน้ำจะไหลจากหน้าผาที่สูงชันเกือบ 90 องศา ลงสู่เบื้องล่างก่อนจะไหลลงสู่น้ำตกเล็กอีกชั้นหนึ่ง ช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคมน้ำตกจะสวยมากเป็นพิเศษ บริเวณทางขึ้นน้ำตกเป็นป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์ มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมหนาแน่นและเฟิร์นหลายชนิดแทรกขึ้นตามหลืบหิน เส้นทางก่อนถึงลานไทรอาจพบร่องรอยของช้างป่าที่มีชุกชุมในป่าแถบนี้ โดยเฉพาะช่วงเวลาเย็น และเส้นทางเดียวกันนี้เหมาะสำหรับการเดินดูนกและดูผีเสื้อ
การเดินทาง จากตัวจังหวัดสระแก้วใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 317 เลยทางแยกเข้าที่ว่าการอำเภอเขาฉกรรจ์ 500 เมตร เลี้ยวขวาตามทางหลวง 3434 ผ่านตำบลพระเพลิงถึงสี่แยกบ้านคลองใหญ่ 17 กม. มีตู้ยามตำรวจอยู่ขวามือ ให้เลี้ยวขวาไปอีก 5 กม. ถึงตลาดทุ่งมหาเจริญ เลี้ยวซ้ายผ่านโรงเรียนบ้านมหาเจริญจนถึงสามแยก มีป้ายบอกทางไปน้ำตกเขาตะกรุบ
จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามทางเส้นทางผ่านหมู่บ้านอีก 7 กม. เลยแยก รร.ตชด.บ้านคลองตะเคียนชัยไปจนถึงหมู่บ้าน ก่อนเลี้ยวซ้ายไปยังหน่วยพิทักษ์ป่าเขาตะกรุบ จากจุดนี้เป็นทางผ่านป่าเหมาะสำหรับรถ 4WD เข้าไปอีก 3 กม.ถึงที่จอดรถ ก่อนเดินป่าด้วยเท้าไปน้ำตกอีกประมาณ 1 กม. ทางค่อนข้างชัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : rakpangsida.net
การเดินทาง จากตัวจังหวัดสระแก้วใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 317 เลยทางแยกเข้าที่ว่าการอำเภอเขาฉกรรจ์ 500 เมตร เลี้ยวขวาตามทางหลวง 3434 ผ่านตำบลพระเพลิงถึงสี่แยกบ้านคลองใหญ่ 17 กม. มีตู้ยามตำรวจอยู่ขวามือ ให้เลี้ยวขวาไปอีก 5 กม. ถึงตลาดทุ่งมหาเจริญ เลี้ยวซ้ายผ่านโรงเรียนบ้านมหาเจริญจนถึงสามแยก มีป้ายบอกทางไปน้ำตกเขาตะกรุบ
จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามทางเส้นทางผ่านหมู่บ้านอีก 7 กม. เลยแยก รร.ตชด.บ้านคลองตะเคียนชัยไปจนถึงหมู่บ้าน ก่อนเลี้ยวซ้ายไปยังหน่วยพิทักษ์ป่าเขาตะกรุบ จากจุดนี้เป็นทางผ่านป่าเหมาะสำหรับรถ 4WD เข้าไปอีก 3 กม.ถึงที่จอดรถ ก่อนเดินป่าด้วยเท้าไปน้ำตกอีกประมาณ 1 กม. ทางค่อนข้างชัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : rakpangsida.net
ฝากที่พักใกล้ปางสีดาด้วยคร่า ที่พักกางเต็นท์ปางสีดาน่าพักมาก
ตอบลบhttps://www.facebook.com/Mulberrysita/